เป็นบ้างไหมเอ๋ย ไปทำศัลยกรรมไกล ๆ บางคนก็อาจจะไปไกลถึงเกาหลี ญี่ปุ่น บางคนก็มาทำไกลถึงกรุงเทพฯ เหมือนกับน้องเอ๋ย #ลูกสาวหมอปุ๊กปิ๊ก ของเรา ที่น้องได้มาเสริมคางกับคุณหมอค่ะ แอดเคยพารีวิวของน้องมาให้ดูกันไปแล้ว แต่วันนี้ !! จะเป็นอีกสเปเชี่ยลรีวิวค่ะ ที่สรุปมาให้ดูกันแบบเน้น ๆ จะเป็นยังไง ไปดูกันค่ะ
สวัสดีค่าาา เอ๋ย เองนะคะ กลับมาเขียนรีวิวให้ดูกันอีกครั้งค่าา ไปแบบเร็ว ๆ เลยน้าาา เอ๋ยเป็นสาวหน้ากลมค่ะ กลมแบบ กลมดิ๊กเลย ถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยมีมิติค่ะ ทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ อยากออกจากวงการหน้ากลมนี้ไม่ไหวแล้ววว
เมื่อก่อนนะ เวลาอยากลงรูปให้สวยต้องพึ่งแอปตลอดเลยค่ะ ยืดหน้า ดึงคางเต็มที่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้ว เพราะตัดปัญหาด้วยการเสริมคางไปเลยสิคะ เอ๋ยคิดว่า ทำศัลยกรรมทั้งทีก็ต้องเลือกที่ดี ๆ ไปเลย เอ๋ยอยู่เชียงใหม่ จะว่าไปก็มีหลายที่ให้เลือกค่ะ แต่พอได้เจอกับ Emma Clinic แล้วรู้สึกว่าอยากทำที่นี่ ต้องตามไปทำให้ได้
ส่วนที่เอ๋ยชอบ ทรงคางของเอมม่าคลินิก เพราะดูเป็นสไตล์ธรรมชาติค่ะ ด้วยความที่เอ๋ยเป็นคนหน้ากลม ทรงคางก็เลยอยากให้รับกับรูปหน้าค่ะ ไม่อยากให้ดูแหลมหรือยาวกว่าหน้า เพราะเคยเห็นบางคน หน้ากลมเหมือนกัน แต่เสริมคางมา ยาวแหลมอยู่แค่คาง ดูแล้วแปลก ๆ ค่ะ ที่เอมม่าก็เลยตอบโจทย์เอ๋ยมากที่สุด สไตล์เกาหลีที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงเกาหลี ว่าแล้วก็ไปกรุงเทพฯ กันเลยค่ะ
มาดูปัญหาก่อนเสริมคาง กันแบบชัด ๆ นะคะ สาเหตุของหน้ากลมก็คือ คางสั้นไม่สมส่วนค่ะ ปลายคางตัดและเนื้อคางไม่เท่ากัน หรือเรียกกันว่าคางเอียงนั่นเอง และมีคางถอยด้วยนิดนึง ทำให้คางดูลึกลงไป ไม่รับแสงเหมือนส่วนของหน้าผาก และจมูกค่ะ
ก่อนหน้านี้ก็รู้แต่ว่าคางสั้นอย่างเดียว แต่พอได้มาปรึกษากับคุณหมอก็ได้รู้ปัญหาของตัวเองหลายอย่างเลยค่ะ คุณหมอปุ๊กปิ๊กใจดี น่ารัก ให้คำปรึษาดีมาก ๆ และก็ออกแบบดีไซน์เข้ากับรูปหน้าของเราตามสัดส่วนใบหน้าค่ะ คลายความกังวลไปเลยค่ะว่าคุณหมอจะทำออกมาแล้วจะยาวแหลมเกินไป
หลังจากปรึกษากับคุณหมอปุ๊กปิ๊กเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเข้าห้องผ่าตัดค่าาา ศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตของเอ๋ยเลย รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ แต่คุณหมอปุ๊กปิ๊กก็มือเบามาก ๆ เช่นกันค่ะ และพี่ ๆ ในคลินิกคือน่ารัก เป็นกันเองก็เลยทำให้ลดความตื่นเต้นลงไปได้เยอะ ระหว่างผ่าตัดมีพี่ ๆ คอยจับมือให้กำลังใจตลอดเวลา ส่วนความเจ็บนี่แทบเป็นศูนย์เลยนะ เจ็บแค่ตอนฉีดยาชาแค่นั้นเองค่ะ
จะเลิกหน้ากลมแล้วหลังจากผ่าตัดเสร็จ ว่าแล้วก็ไปลุ้นหลังทำกันเลยค่ะ ว่าไปกลับ เชียงใหม่ – กรุงเทพ ครั้งนี้จะคุ้มมั้ย
ถามว่าเสริมคาง ต้องพักฟื้นมั้ย ก็เอ๋ยเสริมคางตอนช่วงเย็น กลับที่พักช่วงค่ำ ๆ เช้าวันถัดมา (รูปแรก) ตอน 8 โมง เอ๋ยกลับเชียงใหม่เองได้ชิล ๆ เลยค่ะ แทบไม่ต้องพักฟื้นอะไรเลย มีปวดนิดนึงเป็นธรรมดาค่ะ คอยกินยาแก้ปวด ประคบเย็นบ่อย ๆ พอถึงเชียงใหม่แล้วก็ดูแลตัวเองต่อค่ะ กินยา ประคบเย็นบ่อย ๆ งดพวกอาหารแสลง
และนี่ก็คือ อัปเดตหลังเสริมคาง 1-14 วันของเอ๋ยเองค่าาา สิ่งแรกเลยคือ หน้าดูยาวขึ้น แต่ทรงคางยังบวมอยู่มากค่ะ หน้าก็เลยดูแปลก ๆ หน่อย ยอมรับเลยว่าหลังทำมาช่วงแรก ๆ มีแพนิคบ้างค่ะ เพราะว่ากลัวหลังทำจะออกมาไม่สวย แต่ก็นั่นแหละค่ะ ยังเป็นช่วงที่คางยังบวมช้ำอยู่ ต้องไปลุ้นตอนเข้าที่แล้วจะเป็นยังไง ???
ทาด๊าาา และนี่ก็คือหลังจากน้องคางเข้าที่แล้วค่าาา ก็ตั้ง 8 เดือนแล้วนี่นา หลังเสริมคาง เวลาผ่านไปไวมากกก แรก ๆ แพนิค หลัง ๆ มาตกหลุมรักเลยค่ะ รักคุณหมอ รักเอมม่าคลินิก ยิ่งเข้าที่ ยิ่งรัดแกน ยิ่งนานแล้วยิ่งสวยขึ้น ประทับใจมากก แบบไม่รู้สึกผิดหวังเลยที่ไปทำไกลถึงกรุงเทพ
การออกแบบทรงคางของคุณหมอปุ๊กปิ๊ก ดีไซน์ทรงคางเข้ากับรูปหน้ามากค่ะ เป็นสไตล์ธรรมชาติสุด ๆ เพราะทำออกมาแล้ว ทรงคางยาวรับกับเรียวแก้ม ดูไม่เป็นก้อน ปลายคางละมุนแบบพอดี เพราะเราเป็นคนหน้ากลมอยู่แล้ว ไม่อยากได้แหลมเป็นก้อนอยู่กลางคาง คุณหมอปุ๊กปิ๊กก็ทำให้ได้ออกมาในแบบที่คิดไว้เลยค่ะ ต้องขอบคุณ ๆ หมอปุ๊กปิ๊กมากจริง ๆ
และด้วยเทคนิค Chin Design Locked ของคุณหมอทำให้คางของเอ๋ย ตั้งแต่เสริมมาไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ ด้วยเทคนิคล็อกซิลิโคนใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก และคุณหมอยังได้ตะไบผิวกระดูกก่อนวางซิลิโคน จึงทำให้ซิลิโคนแนบสนิท ไม่ลอย ไม่เบี้ยวเอียง ลดความเสี่ยงการทะลุของซิลิโคนอีกด้วยค่ะ และเป็นการเสริมคางแผลใน ไม่มีรอยแผลเป็นเลย สวยแบบไร้กังวล ไร้ปัญหาแบบนี้ ออกไปอวดสวยได้เต็มที่เลยค่าาา ใครที่สนใจเสริมคาง สไตล์เกาหลี เทคนิค Chin Design Locked ปรับรูปหน้า ให้เรียวสวย ทักเข้ามาปรึกษากับแอดมินได้เลยค่ะ (ตามไปดูรีวิวของเอ๋ยแบบละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ เปลี่ยคางสั้นฐานเอียง เป็นคางสวยสไตล์เกาหลี)