สวัสดีค่าา ก่อนจะไปรีวิวเสริมคาง ขอแนะนำตัวก่อนน้า ชื่อว่า“มัดหมี่” ค่ะ ตอนนี้เป็นไอดอลสมาชิกวง Pink navy และเป็นนักศึกษากำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ค่ะ
ด้วยความที่มัดหมี่เรียนไปด้วยเป็นไอดอลไปด้วย ก็เลยมีงานเข้ามาค่ะ ทั้งงานรีวิว งานถ่ายแบบ ถ่าย MV ออกงานแสดง อีเว้นท์ต่างๆ เรียกว่าต้องใช้หน้าตาทำงานโดยตรงเลยงับ แต่ปัญหาก็คือ มัดหมี่เป็นคนคางสั้นมาตั้งแต่เด็กค่ะ แม้เวลาถ่ายงาน ถ่ายอะไรออกมา จะมีความน่ารักสดใสแบบเด็กๆ แต่พอโตขึ้นแล้ว เราก็อยากจะสวยบ้างอะไรบ้าง เพราะใบหน้าเดิมของมัดหมี่ดูสั้นกลมเวลาถ่ายรูปก็ดูไม่ค่อยมีมิติค่ะ
หลังจากรู้ปัญหาใบหน้าของตัวเราเองแล้วว่าขาดอะไร ก็ต้องรีบหาที่เติมด่วนๆ สำหรับมัดหมี่แล้วการเสริมคางก็คือการลงทุนให้กับตัวเองค่ะ ยิ่งต้องใช้หน้าตาทำงานโดยตรงเลยยิ่งต้องรีบเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมคางเลยค่ะ ดูหลายที่มาก เพราะจำทำทั้งทีก็ต้องมั่นใจว่าทำออกมาแล้วจะดีกว่าเดิม แต่ละที่ก็มีวิธีการผ่าตัด เทคนิคและสไตล์การออกแบบทรงคางแตกต่างกัน จนได้มาเจอกับ Emma Clinic คลินิกเสริมคางสไตล์เกาหลีค่ะ พอเห็นรีวิวแล้วตาลุกวาวเป็นประกายเบยยย คนที่เสริมคางมาก่อนคือทรงคางสวยละมุน สายเกามาก เห็นแล้วอยากได้มาไว้บนหน้าเราบ้างก็ไม่รอช้า รีบจองเลยซิคะ ใจร้อนอยากมีคางเร็วๆ
มัดหมี่มาเสริมคางที่ Emma Clinic ฝากตัวเป็นลูกสาวหมอปุ๊กปิ๊กค่าา เพราะเราดูจากรีวิวแล้วชอบทรงคางที่คุณหมอดีไซน์มาก พี่แอดมินก็เลยนัดให้เข้ามาปรึกษาเสริมคางกับคุณหมอก่อนค่ะ พอได้เจอคุณหมอปุ๊กปิ๊กตัวจริงน่ารักใจดีสุดๆ คุณหมอวิเคราะห์ปัญหาคางให้ว่า มีปัญหาคางสั้นและฐานคางเอียงค่ะ เพราะเนื้อคางทั้งสองข้างไม่เท่ากัน แล้วก็ประเมินเนื้อคางต่อค่ะว่าเราสามารถเสริมคางได้หรือไม่? จะเสริมคางได้แค่ไหน? พอคุณหมอปุ๊กปิ๊กจับเนื้อแล้วบอกว่า “มีเนื้อยืดหยุ่นพอที่จะเสริมคางได้ค่ะ ทำออกมาสวย” เท่านั้นแหละ ดีใจสุดๆ เย้ๆๆๆ ทีนี้ก็รีบจองคิวผ่าให้ไวเลย
พอถึงวันผ่าตัดเสริมคางก็แอบตื่นเต้นมากๆ แต่พอทำจริงไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ คุณหมอมือเบามาก เจ็บแค่ตอนฉีดยาชาอย่างเดียว มีพี่ผู้ช่วยคอยจับมือให้กำลังใจตลอด ไม่กี่นาทีก็ผ่าตัดเสริมคางเสร็จแล้วค่ะ หลังเสริมคางทันทีคือหน้าดูเรียว ดูยาวขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ก็ยังแอบไม่คุ้นหน้าใหม่ของตัวเองอยู่บ้างค่ะ เชื่อว่าหลายคนที่ทำศัลยกรรมมาแรกๆ ก็เป็นเหมือนกัน 555
รีวิวหลังเสริมคาง
เสริมคางเสร็จแล้วก็เดินทางกลับบ้านได้ทันทีค่ะ ไม่ต้องพักฟื้นเลย พอเช้าวันถัดมาหน้าดูบวมขึ้นกว่าเดิมนิดนึงค่ะ พอผ่านไป 4 วันก็เริ่มยุบลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ เพราะมัดหมี่ดูแลตัวเองหลังผ่าตัดดีมากๆ ทำตามที่คุณหมอแนะนำทุกอย่าง พอครบ 1 เดือนก็หายบวมแล้วค่ะ น้องคางเข้าที่แล้วส่องกระจกเทียบกับรูปเก่าๆ แล้วตกใจอยู่เหมือนกัน คือแบบหน้าใหม่ที่หมอให้มาคือดีต่อใจสุดๆ
ด้วยความที่มัดหมี่เดิมทีเป็นสาวสไตล์หวานๆ ก่อนจะเสริมคางก็แอบกังวลว่าหน้าจะออกมาดุค่ะ แต่พอทำออกมาแล้ว คุณหมอดีไซน์ให้ดูหวานละมุนมีความเป็นผู้หญิงมากขึ้นกว่าเดิม หน้าดูเรียววีเชฟขึ้นด้วย บอกเลยว่ารักคางใหม่มาก กดถูกใจแบบล้านไลค์รัวๆ
คุณหมอปุ๊กปิ๊กบอกว่า การเสริมคางที่ Emma Clinic จะใช้เทคนิคเสริมคางแบบ Chin Design Locked ค่ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องซิลิโคนเสริมคางเบี้ยวเอียง เพราะใช้วิธีตะไบฐานกระดูกคางจนเรียบ เพื่อให้ซิลิโคนยึดติดกับผิวกระดูกแบบแนบสนิทค่ะ และล็อคซิลิโคนใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูกอีกที ฟังดูเหมือนน่ากลัว แต่ลองคิดดูว่าถ้าไม่ใช้เทคนิคนี้ อนาคตซิลิโคนเกิดเบี้ยวเอียงหรือทะลุออกมาจะน่ากลัวยิ่งกว่านี้ค่ะ การใช้เทคนิค Chin Design Locked ทำให้มัดหมี่มั่นใจถึงความเซฟในระยะยาวมากขึ้น
ส่วนเรื่องการดีไซน์คุณหมอจะใช้เทคนิคแบบเสริมคางสไตล์เกาหลีค่ะ โดยคุณหมอจะดีไซน์ทรงคางให้รับกับใบหน้าของแต่ละคน อย่างมัดหมี่มีปัญหาคางสั้นเท่านี้ ต้องเสริมเพิ่มอีกเท่านี้ เพื่อให้พอดีกับสัดส่วนของใบหน้าค่ะ ไม่งั้นถ้าเสริมคางยาวเกินไปจะเป็นแม่มดค่ะ (กริ๊ดเลยนะ) อีกอย่างปลายคางจะต้องดูละมุนไม่แหลมค่ะ เพราะถ้าแหลมเกินไปหน้าจะดูแปลกๆ
อีกเหตุผลนึงนอกจากเสริมคางสไตล์เกาหลี ทรงคางสวยเป็นสไตล์ธรรมชาติและเซฟในระยะยาวแล้ว ที่มัดหมี่เลือกเสริมคางที่นี่ก็เพราะ คุณหมอใช้เทคนิคเสริมคางแผลในค่ะ เพราะหาข้อมูลมาแล้วว่าเสริมคางวิธีนี้ ไม่มีรอยแผลเป็นหลังเสริมช่วยให้สบายใจได้มากเลยค่ะ เพราะถ้าเป็นแผลนอกต้องคอยทายาสม่ำเสมอ ดูแลแผลมากเป็นพิเศษห้ามโดนน้ำ มัดหมี่เป็นคนผิวแพ้ง่ายก็อยากที่จะล้างหน้าทุกวันได้ตามปกติค่ะ พอรู้ว่าที่ Emma เสริมคางแผลใน ก็ตัดความกังวลเรื่องนี้ได้เลย
รีวิวหลังเสริมคาง 3 เดือน
ตั้งแต่วันแรกที่ผ่าตัดเสริมคางกับคุณหมอมา จนถึงตอนนี้เข้า 3 เดือนแล้วค่ะ คางไม่มีปัญหาอะไรเลย ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ที่เปลี่ยนคือตอนนี้มีหน้าใหม่ค่ะ เปลี่ยนไปจากเดิมเมื่อก่อนมากๆ รู้สึกว่าตัวเองดูหวานละมุนมีความเป็นผู้หญิงมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนหน้าดูแอบแมนๆ บ้างในบางมุมค่ะ
ตอนนี้ถ่ายรูปสนุก Enjoy กว่าเดิมเยอะค่ะ เพราะหันถ่ายได้ทุกมุม สวยได้ไม่ต้องแต่รูปเลย มันทำให้เรารู้สึกมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมจริงๆ นะ เพราะเมื่อก่อนเราจะมั่นใจกับการถ่ายรูปตัวเองหรือคัดรูปเอง แต่ตอนนี้ใครมาถ่ายเราก็ได้ รูปไหนก็มั่นใจว่าต้องออกมาดี พอเรามีความมั่นใจแล้ว การทำงานก็ง่ายขึ้นมากค่ะ งานรีวิวก็เข้ารัวๆ ตั้งแต่ช่วงแรกทำมาเลย
สุดท้ายต้องขอบคุณ คุณหมอปุ๊กปิ๊ก Emma Clinic จริงๆ ค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่มัดหมี่ได้เสริมคาง และรู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้มาทำกับคุณหมอ คุณหมอดีไซน์ทรงคางให้ได้แบบที่ถูกใจ เข้ากับใบหน้าของเราแบบพอดี ปลื้มปริ่มมากถึงมากที่สุดเล้ยยย
ใครที่ดูรีวิวแล้ว สนใจอยากเสริมคางสไตล์เกาหลีนะคะ มัดหมี่แนะนำที่ Emma Clinic ค่ะ เพราะตัวเราเองก็ทำที่นี่มาแล้ว รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง และรู้สึกประทับใจค่ะ ทั้งบริการของที่นี่และความเอาใจใส่ ไม่ใช่แค่มัดหมี่ที่ทำแล้วออกมาสวยถูกใจนะคะ ยังมีรีวิวของคนอื่นๆ สวยๆ อีกเพียบเลย ไปติดตามกันได้ที่เพจ Emma Clinic เสริมคางสไตล์เกาหลี หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Emma Clinic ค่ะ วันนี้มัดหมี่ขอตัวไปก่อนนะคะ บ๊ายบายค่าาา