รีวิวเสริมจมูกโอเพ่น Open เปลี่ยนจมูกเนื้อน้อย เป็นจมูกสวยนุบนิบแบบเกาหลี
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราชื่อเนยนะคะ อยากแชร์ประสบการณ์การเสริมจมูกครั้งแรกแบบโอเพ่นค่ะ จั่วด้วยภาพ Before – After ให้เห็นกันไปเลยค่ะ ว่าทำไม? เราถึงตัดสินใจทำจมูกครั้งนี้ค่ะ (ภาพซ้ายก่อนทำ – ภาพขวาหลังทำ)
จริงๆ แล้วเรากลัวการผ่าตัด การเสริมจมูกมากเลยนะคะ เพราะไม่เคยทำเลย ประกอบกับเห็นเคสรีวิวพังๆ มาเยอะ คิดอยู่นานมากแบบบมากกกค่ะ แต่ลึกๆ ก็รู้สึกไม่แฮปปี้กับตัวเอง เวลาถ่ายรูปมันดูหน้าไม้จึ้ง พอส่วนโฟกัสจุดกึ่งกลางของใบหน้าก็คือจมูก หากไม่พุ่ง ก็ทำให้หน้าดูแบน ไม่มีมิติ ถึงแม้ว่าใจก็อยากทำ แต่สมองสั่งว่าไม่กล้า พอไม่มั่นใจก็ ส่องกระจกบ่อยมาก ส่องไปส่องมา เอ๊าทำไมจมูกฉันดูเอียงๆ ปลายก็อ้วนป้อม เห๊ย! ฉันปวดหัวมากนะ ชอบโดนแซวว่าหายใจออกมั้ยเพราะจมูกเนื้อน้อย จมูกฉันสู้ชีวิตต 555+
หากใครนึกภาพไม่ออก ขอแปะภาพหน้าตรงให้อีกสักภาพเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ คุณผู้ชมมม
เราดูรีวิวเสริมจมูกโอเพ่นเยอะมากค่ะ ดูทั้งเพจตรงของแต่ละคลินิกและก็สิงตามเพจบิวตี้ต่าง ๆ เห็นรีวิวสวย ๆก็เยอะ พลาดๆ ก็แยะ เรากลัวนะคะ กลัวจะเป็นแบบเคสพลาด แต่ใจก็อยากทำไป 80 % แล้ว ให้เวลาทำใจกับการทำครั้งแรกของเราหน่อยนะคะหากใครจดๆจ้องๆ แบบเรา เราเข้าใจเลยนะ บอกเลยค่ะเราคือเพื่อนกัน
เราเลือกเยอะมาก เพราะไม่อยากเป็นแบบที่เค้าว่า “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย” คือไม่อยากต้องกลับไปแก้หรือมีปัญหาเรื่องแผลติดเชื้อภายหลัง เลยอยากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานอย่างแรกเลยคือความปลอดภัยค่ะ ความมืออาชีพของทีมแพทย์ และ การบริการที่ดีค่ะหากเพื่อนๆ กำลังหาคลินิกที่จะไปเสริมจมูกอยู่ ลองตั้งโจทย์ ทำการบ้านไปก่อนก็ดีนะคะเพราะคลินิกที่ทำนั้น มีเยอะมากจริง ๆค่ะ
จากที่เราตั้งโจทย์ทำการบ้านในการหาข้อมูลการเสริมจมูกโอเพ่นคือช่วยได้เยอะในการตัดคลินิก ที่ไม่เข้าตามโจทย์ของเราออกไป บางอย่างเปิดโลกเรามากค่ะ เราเองก็เพิ่งรู้นวัตกรรมหลายๆ อย่าง จากการหาข้อมูลค่ะ ว่าการผ่าตัด การศัลยกรรม เค้าต้องมีทั้งคุณหมอศัลยกรรมโดยตรง และ อีกส่วนคือช่วงการดมยสลบค่ะ ขั้นตอนนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันกับขั้นตอนการผ่าตัดเลยเราเองก็เพิ่งรู้ค่ะ ว่าเค้ามีคุณหมอวิสัญญีแพทย์ ที่ต้องดูแลเรื่องการดมยาสลบซึ่งเท่าที่หาข้อมูลและโทรสอบถาม บางคลินิกก็ไม่ได้มีทุกคลินิกนะคะ
พอตั้งธงได้เรื่อง ความปลอดภัย ทีมแพทย์และการบริการ ก็ตัดตัวเลือกไปได้เยอะค่ะ เราดูที่ Emma Clinic ซึ่งเรารู้จักจากที่เพื่อนแนะนำมาด้วย ก็เลยลองเข้าไปดูยังไม่ทันอ่านข้อมูล แค่เห็นเคสรีวิวเสริมจมูกโอเพ่นก็ชอบเลยค่ะ ทรงจมูกสวยมาก เค้าเรียกว่าทรง Tear Drop อธิบายไม่ถูกเหมือนกันค่ะ ว่าลักษณะอย่างไร เพื่อนๆ ลองเข้าไปดูที่เพจของคลินิกดูนะคะ มีหลายเคสเลยค่ะ แต่ละเคสเห็นความแตกต่าง ก่อนทำ-หลังทำค่อนข้างชัด ดูรวมๆแล้วสวยมีเสน่ห์ เป็นธรรมชาติ น่ามองค่ะ
เราทักไปคุยทางเพจ มีแอดมินคอยตอบและให้ข้อมูลดีมากค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ต้องเข้าไปคุยเคสกับคุณหมอโดยตรงนะคะ นอกจากแบบทรงจมูกที่ถูกใจ ที่เห็นคลินิกรีวิวไว้แล้วนั้น เราเริ่มไล่อ่านข้อมูลในเพจ ที่ Emma Clinic มีทั้ง คุณหมอศัลยแพทย์ และ คุณหมอวิสัญญีแพทย์ที่ดูแลการผ่าตัดและดมยาด้วย ครบตามโจทย์ขนาดนี้ ก็ทำนัดไปเลยสิคะ
วันที่ทำนัดเข้าไปปรึกษาเสริมจมูกโอเพ่น คุณหมอก็วิเคราะห์ปัญหา ของเราเป็นข้อๆ ตามนี้ค่ะ ได้แต่พยักหน้าตามที่คุณหมอวิเคราะห์ ใจเราตอนนี้คือ อยากจะดมยาสลบตัวเองแล้วบอกว่าผ่าเลยค่ะคุณหมอ ฮือออ !
- จมูกเนื้อน้อย
- ฐานจมูกเอียง
- ปลายจมูกอ้วนกลม
- สันจมูกเตี้ย เนื้อบาง จับเนื้อไม่ขึ้น
- หน้าดูแบนไม่มีมิติ
รูปก่อนเสริมจมูกโอเพ่น
คุณหมอให้คำแนะนำ ว่า ในเคสของเราเนื่องจาก จมูกเนื้อน้อย ฐานจมูกเอียง ปลายจมูกอ้วนกลม/สันจมูกเตี้ย เนื้อบาง จับเนื้อไม่ขึ้น หน้าดูไม่มีมิติ วิธีการที่จะช่วยได้คือ เสริมจมูกเทคนิคโอเพ่นรีคอน และ เทคนิคยืดกระดูกปีกนกเพื่อ ปรับจมูกให้สโลปปลายพุ่ง แบบพอดี เราขอคุณหมอว่าขอให้เป็นทรงที่ ความโด่งของจมูกดูธรรมชาติ สวยรับกับใบหน้า ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าการจัด จมูกทรง Tear drop ซึ่งเป็นสไตล์ของทาง Emma Clinic อยู่แล้วนั้นจะช่วยคอมพลีทลุคบนใบหน้า ให้ดูหน้าหวานละมุน ดูมีมิติขึ้น
จากที่เข้ามาปรึกษาคุณหมอ ได้มาเห็นสถานที่จริง และดูการบริการของเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ การดูแลใส่ใจ เราจึงตัดสินใจทำจมูกที่นี่ค่ะ ถึงเราจะไม่เคยผ่าตัดใหญ่เลย แต่รู้สึกเชื่อมั่นใน Emma Clinic ค่ะ เพราะดูแล้วที่นี่คลินิกเสริมจมูกที่ได้มาตรฐาน คุณหมอก็เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมด้วย คลายความกังวลเราได้ทุกข้อ เหลือแต่รอตื่นมาสวยทีเดียวค่ะ
ก่อนทำ – หลังทำทันที
เสริมจมูกโอเพ่น Open Reconstruction
กลับมาดูแลตัวเองที่บ้าน 5 วัน ชิลค่ะ ยังมีความบวมอยู่บ้าง ช่วงนี้ยังโดนน้ำไม่ได้ค่อยเอาผ้าชุบน้ำซับ รอบๆ นะคะ
ท๊าดา !! และแล้ว วันถอดเฝือกก็มาถึงครบ 7 วันแล้ว มาถอดเฝือกหลังเสริมจมูกกันค่ะเพื่อนๆ ขั้นตอนจริงไม่ยากเลยนะคะ พี่ๆ ที่คลินิกสอนเรามาอย่างดีค่ะ มาค่ะ เริ่มเลอ !
เริ่มจากเอาสำลีก้านใหญ่ ชุบน้ำเกลือแล้วค่อยๆ แงะๆ อย่างเบามือนะคะ ค่อยๆ ซอกซอนเข้าไปจังหวะนี้ถ้าไม่ถนัดก็ให้เพื่อนช่วยแงะได้นะคะ จากนั้นใช้คีมค่อยคีบ ส่วนที่ลอกออกทีละน้อยตอนทำก็ แต่ก็แอบลุ้นอยู่น๊า ทุกคนน ลุ้นทั้งทรงจมูกที่ทำจะเข้าที่หรือยังน๊า ทั้งลุ้นว่าฉันจะถอดได้มั้ย อ่ะเริ่ม ทำได้ม้ายยย ฉันทำได้! ตอกย้ำเชื่อมั่น มั่นใจ ลงมือทำ 555 +
คลิปตอนเราถอดเฝือกเสริมจมูกโอเพ่นนะคะ ไม่ยากเลยค่ะ ดูลิงค์ด้านล่างในติ๊กต่อกนี้ได้เลยยย VVV
หลังถอดเฝือกเสริมจมูกโอเพ่นทันทีอาจจะมีบวมนิดหน่อย แต่ไม่มีความช้ำเลย ชอบมากเลยอ่าทุกคนนน มันดูเกาหลีเกาใจ น่ารักนุบนิบ ลองเซลฟี่แล้ว คือหันมุมไหนก็สวย หน้าดูมีมิติมีจุดโฟกัส ขออวยยศให้ทรง Tear drop เลยค่ะ ขนาดว่ายังบวมนิด แต่เราก็ชอบทรงแล้วนะคะ
ยิ่งพอได้แต่งหน้า แค่ลุคใสๆ เบาๆ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือหลังเสริมจมูกโอเพ่น หน้าดูมีมิติมากขึ้นปลายพุ่ง แต่ยังดูละมุน และสโลป ความโด่งไม่สูงไป รับกับใบหน้าตามแบบที่คุยกับคุณหมอไว้เลยค่ะ
อัพเดท 3 สัปดาห์ หลังเสริมจมูกโอเพ่นมา ตอนนี้เกือบจะครบเดือนแล้วค่ะ ลองแต่งหน้าแบบจัดเต็มก็คือ ปังมากแม่! กราบความพุ่ง ละมุนนี้
ยอมรับว่าก่อนตัดสินใจมาทำจมูก เรากังวลเยอะค่ะเพราะเป็นครั้งแรก ตัดสินใจอยู่นานมาก หากเพื่อนที่กำลังมองหาคลินิกที่จะทำตามโจทย์คล้ายๆ กับเรา ลองเข้าไปปรึกษา ที่ Emma Clinic ดูได้นะคะ แอบกระซิบเบาๆ พูดกันแต่เรา เค้าลูกสาวหมอวีน๊า ไว้จะมาอัพเดตจมูกให้ดูกันอีกนะคะเพื่อนๆ และสำหรับใครที่อยากหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือดูรีวิวเสริมจมูก เสริมจมูกเทคนิคโอเพ่น หรือเสริมคางเกาหลี V360 ปังๆ สวยๆ ก็สามารถเข้าไปติดตามที่เว็บไซต์ www.emmaclinicthailand.com ได้เลยค่ะ
