ใครที่กำลังเจอกับปัญหาคางตัด ทำให้หมดความมั่นใจบนใบหน้า เพราะหน้าดูสั้น กลม และเหลี่ยม คงกำลังหาวิธีแก้คางตัดให้กลายเป็นคางสวย แต่คำถามคือ เสริมคางที่ไหนดี? เสริมด้วยเทคนิคอะไรดี? ที่จะช่วยให้คางตรงตามความต้องการของเราได้ ซึ่งการจะเลือกเสริมคางทั้งที จะต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ปัญหาคางแบบไหนที่เหมาะกับการทำคาง
บทความนี้เอมม่าจะมากระซิบบอกทริคการเลือก และรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจศัลยกรรมค่ะ เพราะการทำคาง ไม่ใช่แค่เลือกสถานที่ แต่เป็นการเลือกทรงคางที่สวยเหมือนเกิดใหม่ให้เข้ากับใบหน้านี่แหละที่สำคัญที่สุดเลย พร้อมแล้วไปอ่านกันเลยยย~ `
ปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์
หรือที่ปรึกษาความงาม
“คางตัด” ส่งผลกับใบหน้ายังไง
คางตัดจะเป็นลักษณะคางที่ส่งผลทำให้ใบหน้าของเราดูดุ ขาดมิติ และทำให้รูปหน้าดูเหลี่ยม ซึ่งลักษณะของคาดตัด คือไม่มีปลายคางยาวลงมา คางจะรูปทรงขนานกันเป็นสี่เหลี่ยม การศัลยกรรมคางจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่กำลังเจอปัญหานี้เลยค่ะ
เสริมคางจะช่วยแก้ปัญหาคางตัดได้ไหม?
คำตอบคือช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด เพราะคุณหมอจะเลือกแก้คางด้วยเทคนิค Chin Design Locked ร่วมกับการออกแบบรูปหน้าตามหลัก Golden Ratio คือการวัดความยาวของคางให้ได้สัดส่วนใกล้เคียงกับความยาวของหน้าผากและความยาวหน้าตรงช่วงจมูก ให้สัดส่วนของใบหน้ามีความสมดุลกัน เสริมคางออกมาให้ดูไม่ยาวเกินไป ช่วยลดความเหลี่ยมของใบหน้าที่เกิดจากคางตัดอีกด้วยค่ะ
แก้ปัญหาคางตัดด้วยเทคนิค Chin Design Locked ดียังไง?
เทคนิค Chin Design Locked เป็นการเสริมคางด้วยวิธีการผ่าตัดแผลใน ช่วยซ่อนรอยแผล และมีแผลเล็กมาก เพียงแค่ 1 – 1.5 เซนติเมตร ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น คางไม่แหลมเหมือนแม่มด ได้คางสวยดูเป็นสไตล์ธรรมชาติ และช่วยลดโอกาสคางเบี้ยวเอียงที่จะเกิดขึ้น จากการล็อกซิลิโคนแนบสนิทใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก นอกจากนี้ เทคนิค Chin Design Locked ยังสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคางบุ๋ม คางสั้น คางตัด
จุดเด่นของการเลือกเสริมคางด้วยเทคนิค Chin Design Locked
1. เทคนิคนี้จะถูกออกแบบเคสต่อเคสให้รับกับสัดส่วนใบหน้าของแต่ละคน ซึ่งจะดีไซน์ทรงคางสวยละมุน ปลายคางไม่แหลมมากจนเกินไป เพราะถ้าคางแหลมหรือยาวจนเกินไป จะทำให้สมดุลหน้าดูไม่ได้สัดส่วน
2. ตะไบฐานกระดูกคางภายใน เพื่อให้ผิวกระดูกเรียบเนียนเสมอกันก่อนใส่ซิลิโคน
3. การผ่าตัดจะถูกออกแบบตกแต่งขนาดซิลิโคนตามสัดส่วนของใบหน้า ไม่ฝืนโครงสร้างบริเวณคาง เพื่อช่วยลดโอกาสหน้าเบี้ยวเอียง
4. มีวิธีการจัดวางซิลิโคนแบบแนบชิดใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูกและแนวกราม ลดโอกาสคางเป็นก้อน และการเห็นรอยต่อซิลิโคน และลดการเกิดปัญหาซิลิโคนกินเนื้อคางอีกด้วย
5. ผ่าตัดแบบแผลใน ทำให้มองไม่เห็นแผลเป็นหลังทำคาง
ใครที่อยากเสริมคาง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเสริมคางที่ไหนดี แนะนำให้เข้ามาปรึกษาที่ Emma Clinic ได้เลย หากใครสนใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองคิวกับ Emma Clinic ที่ช่องทางด้านล่าง ได้เลยค่า
ปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์
หรือที่ปรึกษาความงาม
