ปรับจมูกทรงนกแก้ว ฮัมพ์สูงด้วยเสริมจมูกแบบโอเพ่น ไม่จำเป็นต้องใส่ซิลิโคน
สวัสดีค่ะ บริ้งนะคะ บริ้งมีปัญหาจมูกมีฮัมพ์สูงมากและปลายจมูกดูงุ้มค่ะ ทางการแพทย์เรียกว่า “Polly Beak Deformity” จมูกทรงนกแก้วของบริ้ง เป็นจมูกที่ไม่ค่อยจะพบในคนเอเชีย ส่วนใหญ่ทรงจมูกแบบนี้จะเห็นได้จากแถบยุโรปฝรั่ง ดั้งโด่งๆ ค่ะ
การมีฮัมพ์ที่สูงในผู้หญิงจะทำให้หน้าเราดูแมนขึ้นไม่ละมุน เวลาแต่งหน้า ถ่ายรูปหรือชีวิตประจำวันก็ดูสวนทางกับลุคสายหวานอย่างบริ้งมากเลยค่ะ ถ่ายรูปออกมา เวลาดูรูปตัวเองแล้วรู้สึกไม่มั่นใจเหมือนองค์ประกอบของหน้า ยังไม่ได้รูปทรงที่เหมาะสม

จริงๆ มองดูเหมือนไม่มีปัญหาอะไรนะคะ ก็ดูมีดั้งแต่บริ้งอยากจะบอกว่า การมีดั้ง.. แต่ไม่ได้รูปทรง ไม่ได้องศาที่รับกับใบหน้าก็เป็นปัญหาเหมือนค่ะ เพราะหามุมถ่ายรูปยากมากค่ะ ก้มๆ เงยๆ หาองศาอยู่นานเลย กว่าจะได้สักรูปค่ะ

อย่างรูปนี้ ทุกคนก็จะมองว่าสวยแล้ว บริ้งจำได้เลยว่าตอนเพื่อนถ่ายให้ เบื้องหลังคือ กว่าจะได้รูปนี้ หามุม หาองศายากมากกกค่ะ ประกอบกับเทคนิคการแต่งหน้าร่วมด้วย เล่นเอาเหนื่อยเลยนะคะ
บริ้งเริ่มรู้สึกว่า เราต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเองค่ะ หากต้องคอยหามุมถ่ายรูปให้ออกมาเป๊ะ ต้องคอยแต่งหน้าเชดดิ้ง บางทีบริ้งก็ว่ามันค่อนข้างยากกับการใช้ชีวิตประจำวันของเราเหมือนกันเลย เป็นจุดเริ่มต้นให้บริ้งเริ่มหาข้อมูลในการหาที่อัพจมูกใหม่ไปเลยสิคะ

ช่วงที่ส่องรีวิวเพจต่างๆ บริ้งพยายามหาดูคลินิกที่เค้าทำทรงออกมาสวยดูเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะ ให้ความรู้สึกแบบทำเหมือนไม่ทำ คือยังอยากให้ดูสวยแบบเป็นตัวเองอยู่ค่ะ บริ้งดูแบบ เห็นของทางเอมม่าคลินิกคือทรงที่เค้าเรียกว่าทรงหยดน้ำ ดูละมุนมากแม่ ซึ่งหลายๆ เคสที่บริ้งดูเค้าทำออกมาได้เข้ารับกับใบหน้าของแต่ละเคส คือสวยเป๊ะปังกันทุกคนเลย บริ้งเลยตัดสินใจลองทำ นัดเข้าไปคุยปรึกษาคุณหมอที่เอมม่าคลินิกค่ะ
พอถึงวันนัด ทางคลินิกก็ถ่ายรูปเพื่อประกอบการวิเคราะห์โครงหน้าของเรา ตอนก่อนที่จะไปคุยกับคุณหมอค่ะ
ก่อนเสริมจมูกโอเพ่น



ถ้าเพื่อนๆ ดูรูปด้านข้างนี้ จะเห็นได้ชัดเลยนะคะว่า ส่วนตรงดั้งที่ปูดๆ นูนๆ ขึ้นมา ตรงนี้คือส่วนที่ เค้าเรียกกันว่า ฮัมพ์ ค่ะ
โจทย์ของบริ้งคือ เราเป็นคนมีฮัมพ์ที่สูงและปลายงุ้ม ดูจมูกตก เลยอยากได้จมูกที่สวยขึ้น ดูละมุน มีความสโลปน้อยๆ ไม่โป๊ะ ! ไม่เว้ามากจนเกินไป และอยากให้ปลายจมูกดูพุ่งเชิ่ดขึ้นเล็กน้อย ให้ดูเป็นธรรมชาติค่ะ ตอนพูดจบแอบเห็นคุณหมอกำหมัดแล้วหนึ่ง อ่ะ หยอกๆ ค่ะ คุณหมอใจดีมากกก 555 +
คุณหมอแนะนำว่าในเคสของเรา ไม่จำเป็นต้องใส่ซิลิโคนเลย เพราะฐานจมูกเดิมค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่ว่าจะแก้ไขตรงจุดที่เรากังวล ก็คือตัดแต่งตะไบตรงส่วนฮัมพ์ให้สโลปหวานขึ้นและดีดปลายพุ่งขึ้นเล็กน้อย เพื่อแก้ปัญหาจมูกงุ้มค่ะ
จากที่คุณหมอให้คำแนะนำ เราชอบมากเลยตรงที่ไม่ต้องใส่ซิลิโคน แต่คุณหมอจะใช้วิธีการปรับยืดกระดูก เรารู้สึกว่า คุณหมอเน้นแก้ปัญหาตรงโจทย์และเก่งด้านเทคนิค จึงทำให้มีหลายวิธีรับมือกับการแก้จมูกรูปแบบต่างๆ ได้ดีรู้สึกมั่นใจ ยิ่งมาเห็นสถานที่ และได้คุยปรึกษากับคุณหมอ อย่างเคลียชัด จึงตัดสินใจไม่ยากเลยค่ะ ที่จะให้เอมม่าคลินิกช่วยเนรมิตจากแม่มดให้เป็นเจ้าหญิงค่ะ
และแล้ววันผ่าตัดก็มาถึง แอบตื่นเต้นแต่ยังยิ้มสู้ ชูสองนิ้วให้กล้องไปหนึ่งแชะค่ะ

ภาพนี้ ทางคลินิกถ่ายไว้ให้ดูหลังจากทำเสร็จทันทีค่ะ หลังจากตื่นจากยาสลบ ก็รู้สึกปรกตินะคะไม่ได้มีอาการเมายาหรือปวดหัวอะไรเลยค่ะ คุณหมอเข้ามาคุย เรื่องรอยช้ำ ว่าเคสเราจะมีรอยช้ำอยู่บ้าง ไม่ต้องตกใจ เพราะคุณหมอได้ตัดส่วนที่เป็นฮัมพ์ออก และตะไบ ตอกฐาน ลดขนาด ทำสโลป จึงอาจจะมีรอยช้ำอยู่บ้าง และจะค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ

เปรียบเทียบชัดๆ ก่อน/หลังทำทันที จะเห็น ว่ารอยฮัมพ์ กระดูกหนาๆ และปลายงุ้มหายไปเลย จมูกดูมีทรงและสโลป ปลายเชิ่ดขึ้นเล็กน้อย ดูเป็นธรรมชาติและบวมน้อยมากทำให้เห็นทรงได้ชัดเจน

อัพเดต 14 วันตัดไหม ความบวมช้ำถือว่าหายไวมากๆ ค่ะ เคสบริ้งเป็นเคสที่ต้องตะไบตอกฐาน แต่อาการบวมช้ำหายไปไวมากๆ ใช้ชีวิตประจำได้ตามปรกติ ตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้วนะคะ พอผ่านมา 14 วันทุกอย่างก็ดูเข้าที่แล้วค่ะ



หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบรีวิว กันน๊าคะไว้บริ้งจะมาอัพเดทเรื่อยๆ นะคะ รู้สึกชอบมาก เลยรีบมารีวิวแบบเร็วๆ ให้เพื่อนๆ ที่อาจจะมีปัญหาเรื่อง ฮัมพ์จมูกสูงแบบเรา ลองดูก่อนตัดสินใจนะคะ
ก่อนจบรีวิว บริ้งขอพูดความประทับใจที่เลือกทำที่เอมม่าคลินิกสักนิดนะคะ อย่างแรกเลยคือ ประทับใจ คุณหมอคือคุณหมอเข้าใจปัญหาที่เรากังวล และช่วยแก้ไขให้ตรงจุดมีการอธิบายวิธีที่จะทำอย่างละเอียด ทำให้เรามีความเข้าใจและไม่กังวลค่ะ
ต่อมาคือทางเอมม่าคลินิก ทั้งพี่ๆ ดูแลเป็นอย่างดีตั้งแต่ตอนเข้าไปปรึกษาวันที่ทำการผ่าตัด และหลังทำก็มีการติดตามผลอยู่ตลอด ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจและหากมีปัญหาหรือสงสัยอะไร สามารถทักไลน์หาพี่ๆ ได้ตลอดเลยค่ะ
ตอนวันที่ผ่าตัด ยอมรับเลยค่ะว่ารู้สึกตื่นเต้น เพราะเป็นการผ่าตัดแบบดมยาสลบครั้งแรก แต่อย่างที่บอก พอเห็นสถานที่ก็รู้สึกว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ดูมีมาตรฐานดีค่ะ สะอาดและที่สำคัญคือ ที่ทางเอมม่าคลินิก เค้ามีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลอยู่ตลอดการผ่าตัด วางใจเรื่องปลอดภัยหายห่วงค่ะ
สำหรับคนที่สนใจ อยากให้นัดเข้ามาปรึกษากับคุณหมอเลยค่ะ คุณหมอใจเย็นและไม่ดุสามารถบอกส่วนที่กังวลและทรงที่ต้องการกับคุณหมอได้เลย คุณหมอจะช่วยออกแบบไปร่วมกับเรา เพื่อให้เข้ากับใบหน้าเราที่สุด พี่ๆ เอมม่าทุกคนก็น่ารักมากค่ะ คอยดูแลอยู่ตลอดไม่ทิ้งคนไข้แน่นอน
ย้อนกลับไปดูรูปตอนก่อนทำแล้วมาดูตอนนี้ ยังไม่ครบ 1 เดือน เเต่จมูกเข้าที่ไวเว่อร์ บริ้งชอบหน้าตัวเองตอนนี้มากค่ะ หน้าเปลี่ยนไปเยอะ



หลังทำรู้สึกว่าหน้าหวานละมุนขึ้น คนรอบข้างก็ทักว่าหน้าดูเด็กลง รู้สึกมั่นใจมากขึ้นค่ะ ชอบมองกระจกยิ่งถ่ายรูปไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ หันทุกมุมทุกองศาแล้วหนึ่ง มุมไหนก็คือดีย์ เดี่ยวไว้ครบ 1 เดือน บริ้งจะถ่ายรูปสวยๆ มาอัพเดตให้ดูกันนะคะ
ปักหมุดติดตาม www.emmaclinicthailand.com ไว้ได้เลยค่ะ หรือใครที่อยากศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม เสริมจมูก เสริมคาง ฯลฯ ก็สามารถเข้าไปศึกษา ดูรีวิวต่างๆ ของ Emma Clinic กันได้เลยยย