การหาข้อมูลก่อนเตรียมตัวเสริมคางว่าสำคัญแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความน่าเชื่อถือของคลินิก ความเชี่ยวชาญของคุณหมอ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือการดูแลตัวเองหลังการทำศ้ลยกรรมเสริมคาง ซึ่งการเลือกรับประทานอาหารถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเช่นกัน เพราะหากรับประทานอาหารแสลง เช่น อาหารทะเล ของหมักดอง ในช่วงนี้ก็อาจเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อ และทำให้แผลหายช้ากว่าเดิม วันนี้ Emma Clinic มีเมนูอาหารที่สามารถหาทานได้ง่ายที่เซเว่นมาแนะนำให้กับสาว ๆ หนุ่ม ๆ ที่เพิ่งศัลยกรรมไป กับ 5 อาหารหลังเสริมคางแผลในกินอะไรได้บ้าง ที่หาทานง่าย อร่อย มีสารอาหารที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย ที่สำคัญราคาเป็นมิตรน่าคบ จะมีเมนูไหนบ้าง ไปติดตามกันเลยค่ะ
ปรึกษากับแพทย์
หรือที่ปรึกษาความงาม
5 เมนูหาทานง่ายในเซเว่น หลังเสริมคางแผลในกินอะไรได้บ้าง
ข้าวต้มหมู
มากันที่เมนูแรกเลยค่ะ อาหารยอดนิยมของพวกเราชาวศัลยกรรมคือ เมนูข้าวต้มหมู ซึ่งมีทั้งคาร์โบไฮเดรตที่ได้จากข้าว และโปรตีนที่ได้จากเนื้อหมู ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยซ่อมแซมร่างกายให้ฟิ้นฟูหายไวยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นเมนูที่ย่อยง่าย เคี้ยวง่าย ลดการสะเทือนแผล เหมาะมากสำหรับหลังศัลยกรรมเสริมคาง แถมหาซื้อง่ายอีกด้วยค่ะ
ซาลาเปาหมูสับ
เมนูต่อไป เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากทานข้าว แต่ต้องการสารอาหารซ่อมแซมร่างกาย อาจมองหาซาลาเปาเป็นเมนูทางเลือก เพราะมีทั้งคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนจากหมูสับ แถมยังอร่อย และรับประทานง่ายมาก แค่แกะซองก็หม่ำได้เต็มคำแล้วค่ะ
เกี๊ยวน้ำหมู
ส่วนใครที่กำลังตามหาเมนูน้ำ ๆ ทานคู่กับข้าวเพิ่มความอร่อย ซดง่าย คล่องคอ พลาดไม่ได้เลยค่ะกับเมนูนี้ นั่นก็คือ เกี๊ยวน้ำหมู เนื้อหมูแน่น ๆ โปรตีนเน้น ๆ น้ำซุปอร่อยกลมกล่อม ฟื้นฟูร่างกายให้แผลหายไว นอกจากอร่อยแล้ว ยังมีสารอาหารที่จำเป็นในราคาเป็นมิตรอีกด้วยค่ะ
แซนวิชเค้กไส้กรอกหมูสับ
เมนูทานง่าย อร่อยอยู่ท้อง แถมเหมาะกับคนที่เพิ่งเสริมคางมาอีกหนึ่งเมนู นั่นก็คือ แซนวิสไส้กรอกหมูสับ นั่นเองค่ะ มีทั้งคาร์โบไฮเดรตจากขนมปัง โปรตีนจากหมูสับ และความอร่อยคับถุง พลาดไม่ได้แล้ว หาตำกันที่เซเว่นด่วนเลยค่ะ
น้ำมะพร้าว
ขึ้นชื่อว่าทำศัลยกรรม หลังทำก็มีอาการบวมช้ำเป็นธรรมดา หนึ่งในเมนูที่จะช่วยลดอาการบวมได้ดีเลยคือ น้ำมะพร้าว เพราะมีแคลเซียม กรดอะมิโน วิตามินบี และธาตุเหล็ก แถมเมนูนี้ยังหาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้ออีกด้วย ใครจะทำศัลยกรรมหรือวางแผนอยากเสริมคางก็ซื้อตุนน้ำมะพร้าวไว้ได้เลยค่า
ปรึกษากับแพทย์
หรือที่ปรึกษาความงาม
