จมูกก็มีแล้ว หน้าผากก็โหนกนูนรับทรัพย์แล้ว แต่หน้ายังดูขาดมิติ ใครเจอปัญหาหน้าไม่เรียว ทรงหน้าไม่เกาหลี ฟังทางนี้เลยค่าา นั่นอาจเป็นเพราะรูปคางของคุณยังไม่ได้องศาที่ใช่ ที่ส่งเสริมให้ใบหน้าคุณดูโดดเด่น วันนี้ Emma Clinic จะพาทุกคนไปรู้จักกับการศัลยกรรมคางแบบล็อกซิลิโคนเทคนิค Chin Design Locked ที่ออกแบบมาเพื่อสาว ๆ หนุ่ม ๆ คนไทยโดยเฉพาะ เทคนิคนี้ดียังไงไปหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ
ปรึกษากับแพทย์
หรือที่ปรึกษาความงาม
จุดเด่นศัลยกรรมคางเทคนิค Chin Design Locked คืออะไร?
การเสริมคางเทคนิค Chin Design Locked เป็นการเสริมคางผ่าตัดแผลใน ซ่อนรอยแผล แผลเล็กเพียงแค่ 1 – 1.5 เซนติเมตร เทคนิคนี้เหมาะทั้งกับเสริมคางผู้ชายและเสริมคางผู้หญิง ด้วยความเชี่ยวชาญของคุณหมอที่มีประสบการณ์เสริมคางมานับ 10,000 เคส ทำให้ผลลัพธ์หลังเสริมคางเป็นที่น่าพอใจของสาว ๆ หนุ่ม ๆ เพราะหน้าดูมีมิติลงตัวมากขึ้น ทรงคางไม่แหลม ไม่แม่มด ได้ทรงคางสวยดูธรรมชาติ จากการล็อกซิลิโคนแนบแน่นสนิทใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก จึงลดโอกาสเบี้ยวเอียงที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ เทคนิค Chin Design Locked ยังสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ในหลาย ๆ เคสที่คนไข้มาปรึกษาคุณหมอด้วยปัญหาคางบุ๋ม คางสั้น คางตัด และปัญหาอื่น ๆ หลังเสริมเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และทรงคางใหม่ที่ได้ก็ดูธรรมชาติอีกด้วยค่ะ
ที่มาเทคนิค Chin Design Locked
คุณหมอหนึ่ง หรือนายแพทย์อนันต์ จึงสุวัฒนานนท์ แพทย์ประจำ Emma Clinic เป็นผู้คิดค้นการเสริมคางเทคนิค Chin Design Locked เพื่อคนไทยโดยเฉพาะ
เพราะรูปหน้าคนไทยหรือคนเอเชียส่วนใหญ่ จะมีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หน้าดูกลม เทคนิคนี้จึงตอบโจทย์ สามารถช่วยแก้ปัญหาปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น
เทคนิค Chin Design Locked ต่างจากเทคนิคอื่นยังไง?
อย่างที่กล่าวไป เทคนิค Chin Design Locked เป็นการเสริมคางแผลใน ออกแบบทรงคางรับกับรูปหน้า ล็อกซิลิโคนใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก ป้องกันการเบี้ยวเอียงในอนาคต เปิดแผลเล็ก พักฟื้นไว แผลหายเร็ว และไม่ทิ้งรอย แผลเป็นด้านนอก เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก
ซึ่งแตกต่างกับบางคลินิก ที่ใช้เทคนิคเสริมคางแผลนอก ทำให้เห็นรอยแผลเป็นบริเวณใต้คาง และอาจเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้ง่ายกว่า รวมถึงใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเทคนิคเสริมคางแผลใน Chin Design Locked ด้วยค่ะ ใครที่สนใจอยากเสริมคางนี้ที่ Emma Clinic สามารถทักมาจองคิว และส่งรูปมาประเมินเบื้องต้นได้เลยค่า
ปรึกษากับแพทย์
หรือที่ปรึกษาความงาม
