เสริมคาง แก้ฟิลเลอร์ให้เป็นคางสวย เป๊ะปัง!!

เคยฉีดฟิลเลอร์เสริมคางมา ต้องแก้ยังไงให้เป๊ะปัง? วันนี้แอดมินจะพาทุกคน ไปหาคำตอบกันค่ะ ด้วยรีวิวเสริมคางแก้ฟิลเลอร์กับเอมม่าเกิร์ลสตอรี่ โดยน้อง “นิ้ง” #ลูกสาวหมอปุ๊กปิ๊ก Emma Clinic

จากใจคนเคยฉีดฟิลเลอร์เสริมคาง ทรงไม่เป๊ะ ไม่ใช่ปัญหา!! แก้ด้วยการเสริมคางปรับรูปหน้าที่ Emma Clinic ครั้งเดียวเห็นผล กับเทคนิค Chin Design Locked สุดปัง!! ล็อกทรงสวยถาวร กรอบหน้าชัดเป๊ะไร้รอยแผลเป็น ด้วยเทคนิคเสริมคางแผลใน โดยหลังแก้คางออกมาแล้ว น้องนิ้งของเราจะเป็นยังไง? เราไปติดตามรีวิวนี้กันได้เลยค่าาา

เคยฉีดฟิลเลอร์ เสริมคางมา

สวัสดีค่าา นิ้งเองนะคะ ใครเป็นเคสเหมือนกันกับนิ้งบ้างเอ๋ย.. เคยฉีดเสริมคางด้วยฟิลเลอร์มา แล้ววันนึงก็อยากแก้ค่ะ อยากเสริมด้วยซิลิโคนเลย คำถามคือ : แล้วจะต้องแก้คางที่ไหน? แก้คางยังไง? วันนี้นิ้งจะมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันนะคะ บอกเลยว่า “รู้งี้ทำคางตั้งนานแล้ว” (หมายถึงทำด้วยซิลิโคนนะ) เพราะอะไร? ไปติดตามกันต่อได้เลยยย

เปิดมาด้วยรูปนี้เลยค่าาา รูปนี้นิ้งเคยเสริมคางมาแล้วด้วยการฉีดฟิลเลอร์ หน้าก็เลยไม่ได้ดูสั้นหรือมีปัญหาอะไร แต่ที่ตัดสินใจมาเสริมคางด้วยซิลิโคนแบบถาวร ก็เพราะเราเริ่มรู้สึกว่าคางดูไม่ค่อยสมส่วนค่ะ แบบแหลมเล็กอยู่แค่ปลายคางทำให้รู้สึกว่าหน้าดูแปลก ๆ และฟิลเลอร์ที่ฉีดมาก็เริ่มจะไม่ค่อยอยู่ทรงค่ะ

หลายคนบอกว่า ถ้าฉีดฟิลเลอร์บ่อย ๆ เนื้อคางก็จะยาวขึ้นเอง แต่สำหรับนิ้งคือคางยาวขึ้นก็จริง แต่ทรงก็ดูจะไม่ค่อยเป๊ะเท่าไหร่ เพราะคางของนิ้งมีเอียง ๆ และห้อยลงเล็กน้อย โดยเฉพาะปัญหาหนักใจนิ้งเลยก็คือ “คางแหลมเกินไป” มันทำให้หน้าดูดุ ๆ แข็ง ๆ นิ้งอยากได้กรอบหน้าที่ดูมีความหวานละมุนขึ้นค่ะ

พอถึงเวลาที่ต้องเติมฟิลเลอร์ ก็เลยคิดว่า เสริมคางด้วยซิลิโคนไปเลยน่าจะเป๊ะและถาวรกว่า ล็อกทรงที่ต้องการได้มากกว่า นิ้งก็เลยเริ่มหาข้อมูลและหาคลินิกที่จะไปแก้คางค่ะ ไม่ใช่ว่าการฉีดฟิลเลอร์เสริมคางไม่ดีนะคะ บางคนฉีดแล้วสวยก็มีให้เห็นเยอะค่ะ แต่สำหรับนิ้งแค่อยากลองสิ่งใหม่ ๆ ค่ะ เผื่อว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม

แก้คางที่ไหนดี?

คำถามคือ นั่นสิ! แก้คางที่ไหนดีน้าาา ??? จนสวรรค์ได้มาโปรด ให้พบเจอกับ Emma Clinic นี่เลยค่าาา เริ่มจากค้นหาในเฟสบุ๊ค เพราะอยากเจอรีวิวก็ได้เจอจริง ๆ ค่ะ พอตามไปดูในกลุ่มก็ร้อง โหหหหเลย เพราะรีวิวเยอะมากกก ไล่ดูไม่ไหว สมาชิกกลุ่มก็มีตั้ง 1.5 หมื่นคน นี่เป็นกลุ่มรีวิวที่มีแค่เสริมคางโดยเฉพาะนะ แต่มีคนติดตามเยอะมาก และคนที่มารีวิวก็มีแต่หน้าสวยเปลี่ยนกันทั้งนั้นค่ะ คนไข้จริงเฟสจริงไม่มีเฟค และยิ่งเห็นทรงก็คือใช่เลย ตรงใจฉันเลย ทรงคางที่นี่ดีไซน์เป็นธรรมชาติเข้ากับหน้าเว่อร์ ไม่ต้องกลัวคางแหลม ยื่น ยาว สบายตาสบายใจไปอีกกก

นิ้งก็เลยกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มและก็เข้าไปร่วมรีวิวด้วยอยู่เป็นประจำค่ะ ใครอยากดูรีวิวของนิ้ง และของเพื่อน ๆ เพิ่มเติมก็คลิกลิ้งค์เข้าไปในนี้ได้เลย >> เสริมคางกลุ่มปิด เทคนิคใหม่ Emma clinic <<

ก็จองไปเลยสิคะ

หลังจากดูรีวิวจนฉ่ำตาฉ่ำใจได้ที่แล้ว นิ้งก็รีบทักเข้าไปหาพี่แอดมินลงคิวทำเลยค่ะ ส่วนพี่แอดมินก็จะให้ส่งวีดีโอจับเนื้อประเมินเนื้อคางให้ก่อนดูเบื้องต้นก่อนค่ะ หลังจากประเมินเนื้อคางผ่านแล้ว ก็นัดวันทำและโอนจองได้เลย ค่าจอง 2,000 บาทนะคะ เก็บสิทธิ์ไว้ได้ 1 ปี จะเปลี่ยนค่าจองไปเป็นบริการอื่น ๆ ของเอมม่าคลินิกก็ทำได้ หรือถ้าใครอยากเข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อนตัดสินใจ ก็แจ้งกับทางพี่แอดมินได้เลยค่ะ

แต่บอกไว้ก่อน ว่าคิวที่นี่เต็มไวมาก ๆ ค่ะ อย่างนิ้งเองตัดสินใจจองช้าไปแค่วันเดียว คิวผ่าตัดเลื่อนไปอีก 1 สัปดาห์เลย ฉะนั้นใครที่สนใจต้องรีบจองกันหน่อยน้าา เพราะคิวจะไหลออกไปไกลเรื่อย ๆ

ไหน ๆ ก็ tie-in แล้ว แปะลิ้งค์ไว้ซักหน่อย จิ้มเข้าไปปรึกษากับพี่แอดมินที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่าา

D-Day ผ่าตัดเสริมคาง

ในที่สุด วันเสริมคางก็มาถึงซักที!! “รอจะทำสวยไม่ไหวแล้ววว” พอถึงเวลานัดก็เข้ามาที่คลินิกได้เลยค่าา แต่อย่าลืมเผื่อเวลาไว้ด้วยน้าาา เพราะต้องมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนผ่าตัดค่ะ ที่นี่ถ้าร่างกายไม่พร้อม ไม่ผ่าให้น้าา เพราะเขาคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกค่ะ ขั้นตอนการเตรียมตัวต่าง ๆ ก็เลยเยอะมาก ๆ

ส่วนพี่ ๆ ทุกคนในคลินิกก็เป็นกันเองมากเลยค่ะ มีชวนคุย ถามตลอดว่ากินข้าวมารึยัง? ทำให้รู้สึกไม่เกร็ง บรรยากาศก็ผ่อนคลายเว่ออออ มีน้ำขนมให้กินรองท้องก่อนด้วย แถมคลินิกก็สะอาดประทับใจสุด ๆ

ถึงเวลาต้อนรับน้องคาง กับคุณหมอปุ๊กปิ๊กแล้วค่าา

ลืมบอกไปว่านิ้ง เสริมคางกับคุณหมอปุ๊กปิ๊กนะค้าา เพราะว่าไล่ดูรีวิวมาแล้ว ทรงคางของคุณหมอตรงกับใจนิ้งมากที่สุดค่ะ ส่วนตอนผ่าตัดเนี่ยก็เจ็บแค่ตอนฉีดยาชาจริง ๆ เจ็บเหมือนมดกัด แต่เป็นมดยักษ์นะ หยอก ๆ ^^ ความจริงแล้วคุณหมอปุ๊กปิ๊กมือเบามากกก ตอนดูรีวิวก็มีแต่คนบอกว่าคุณหมอปุ๊กปิ๊กมือเบา พอได้มาลองเองก็ เออเบาจริง

ตอนที่เดินเข้ามาในห้องผ่าตัด ได้เห็นเครื่องมือแพทย์ ได้เห็นอุปกรณ์เยอะแยะไปหมด ก็มีแอบ ๆ กลัว มีตื่นเต้นบ้างนิดหน่อยค่ะ แต่มีพี่ ๆ พยาบาลคอยจับมือให้กำลังใจตลอดการผ่าตัดเลย น่ารักสุด ๆ พอนอนทำไปซักพักก็ไม่รู้สึกเกร็งแล้ว เพราะคุณหมอจะคอยบอกตลอดค่ะว่าตอนนี้ทำอะไร ขั้นตอนต่อไปจะทำอะไร Step 1 2 3 4 แป๊บเดียวไม่เกิน 1 ชม. ก็ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วค่าาา แล้วเดี๋ยวไปลุ้นหลังทำทันทีกันเลยค่ะว่าจะออกมาเป็นยังไง

หลังเสริมคาง แบบสด ๆ ร้อน ๆ กลับบ้านชิว ๆ

มาแล้วค่าาา น้องคางที่นิ้งเฝ้ารอคอย รีบถ่ายเซลฟี่เก็บไว้ทันทีหลังทำเลยค่ะ (หน้าสดนิดนึงน้าาา) หลังทำทันทีทรงคางจะยังเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ค่ะ เพราะว่าหลังทำทันทีคางบวมฉึ่งขึ้นมาเลย ด้วยความที่เป็นเคสแก้ฟิลเลอร์ ต้องขูดฟิลเลอร์ออกให้เกลี้ยงก่อนค่ะ คุณหมอถึงจะวางซิลิโคนได้แบบแนบสนิท ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องบวมแหละ คุณหมอแนะนำว่าต้องรอดูหลังจากยุบค่ะ จะเห็นทรงชัดกว่านี้

หลังเสริมคางเสร็จ ก็โดนพาตัวไปฉายแสงลดบวม จากนั้นนิ้งก็ลงไปรับยาและกลับบ้านได้ทันทีค่ะ รู้สึกเป็นปกติมาก ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วก็ยังไม่รู้สึกเจ็บหรือปวดอะไรเลยด้วย แค่ตึง ๆ เลยค่ะ พึ่งรู้ว่าเสริมคางไม่เจ็บ (ก็พึ่งเคยทำนี่นา)ที่เหลือก็ดูแลตัวเองตามคำแนะนำเลยค่ะ กินยา ประคบเย็น นอนหมอนสูง งดเท้าคาง งดแปรงฟัน 2 สัปดาห์ เพราะว่าเสริมคางแผลในค่ะ ผ่าตัดเปิดแผลในปาก ไม่มีรอยแผลเป็นเลย แต่ต้องงดอาหารรสจัด ของแสลง แล้วก็ต้องคอยบ้วนปากหลังอาหารทุกมื้อค่ะ แต่ถือว่าดูแลง่ายมาก ๆ เลยนะ เพราะไม่ต้องคอยดูแลแผลที่ภายนอกเลย แค่ดูแลเรื่องอาหารการกินก็พอ ที่เหลือก็แค่รอให้น้องแผลในปากหายเองค่ะ

อาการบวมช้ำ หลังเสริมคาง

หลังทำทันทีก็มีบวมขึ้นมาตามอาการค่ะ แต่หลังจากนั้นก็บอกเลยว่า ความบวมแทบไม่มีจริง ๆ ไม่มีรอยช้ำเลย ใช้ชีวิตประจำวันได้แบบปกติค่ะ มีแค่เรื่องกินอย่างเดียวจริง ๆ ที่ต้องเลือกกินหน่อย แต่พอเวลาผ่านไปแผลในปากก็จะเริ่มค่อย ๆ ปิด แล้วหายเองภายใน 2 สัปดาห์ค่ะ จากนั้นก็กลับมาแปรงฟันได้ปกติ ช่วงแรกก็ต้องดูแลตัวเองเยอะหน่อยเป็นธรรมดา แต่พอเริ่มหายดีแล้ว การดูแลตัวเองก็จะค่อย ๆ น้อยลงไปเรื่อย ๆ ใครที่พึ่งทำมาวันแรก ๆ แล้วอาการหนักมาก ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ เพราะเดี๋ยวก็หายค่ะ

เทคนิคเสริมคางแผลใน อย่างที่บอก ไม่ต้องทายาหรือดูแลแผลจากด้านนอกเลย ฉะนั้นหมดห่วงเรื่องรอยแผลเป็นกวนใจไปได้เลย ทรงคางตอนนี้ก็ค่อย ๆ เริ่มเห็นเป็นทรงชัดขึ้นเรื่อย ๆ แล้ววว อย่างวันแรกนิ้งคือฮาหน้าตัวเองมาก นี่ใคร!? เพราะส่องกระจกไม่คุ้นหน้าตัวเองสุด ๆ 555 คิดว่าไม่สวยแล้ว แต่พอวันเวลาผ่านไปก็เริ่มกลับมาเป็นปกติ รู้สึกว่าตื่นขึ้นมาก็เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเองทุกเช้าค่ะ การได้เห็นพัฒนาการของตัวเองมันก็เป็นเรื่องที่ฟินไปอีกแบบนะ จากปลายคางทีแรกที่นิ้งกังวลเรื่องคางแหลม ตอนนี้ก็บอกลาคางแหลมไปแล้วค่าาา เพราะปลายคางคุณหมอปุ๊กปิ๊กออกแบบให้ดูละมุนขึ้น แล้วเดี๋ยวไปดูหลังครบ 1 เดือนกันเลยย ว่าน้องคางจะออกมาเป๊ะปังขนาดไหน ไปกันนน

ครบ 1 เดือนแล้วค่าา เป๊ะในเป๊ะ

เสริมคางครบ 1 เดือนแบบเป๊ะ ๆ หมายถึงคางนะ ที่เป๊ะมาก!! เพราะนิ้งในเมื่อก่อน รูปหน้าไม่เคยจะหวานเลยค่ะ แต่ตอนนี้กรอบหน้าดูละมุนใจ สบายตาสุด ๆ ดูสมกับเป็นคางจริง ๆ อารมณ์แบบแม่ให้มาตั้งแต่เกิดค่ะ เพราะคางทรงนี้คุณหมอปุ๊กปิ๊กตั้งใจเสกให้ ปลายคางไม่แหลมเหมือนเมื่อก่อน ไม่ยาวแม่มด ไม่ยื่นมะม่วง รูปหน้าก็เลยดูสมส่วน มีมิติขึ้น กรอบหน้าก็ดูเต็ม ดูคมชัดมากขึ้น

ธรรมชาติมากแม่ จับโป๊ะไม่ได้แน่นอน “รู้งี้ทำคางตั้งนานแล้วค่ะ” คือตั้งแต่ทำมาเนี่ย มีแต่คนทักว่าหน้าบวมน้อยมาก ขนาดว่าเป็นเคสขูดฟิลเลอร์ด้วยนะ ส่วนทรงคางก็เนียนตามาก ไม่มีแผลเป็น ไม่มีรอยต่อของซิลิโคน ด้วยเทคนิค Chin Design Locked ล็อกทรงแน่น กระชับรับกับกรอบหน้า ไม่เบี้ยว ไม่เอียง ไม่ลอย ส่วนฝีมือการขูดฟิลเลอร์ของคุณหมอก็เกลี้ยงมาก ทำให้ไม่มีปัญหาอย่างที่เห็นค่ะ บอกเลยว่านิ้งไม่รู้สึกผิดหวังเลยจริง ๆ ที่ได้เลือกแก้คางกับคุณหมอปุ๊กปิ๊ก Emma Clinic ค่าาา

แก้คาง เสริมคาง ปรับรูปหน้า ติดต่อทักหาแอดมินได้เลยที่ FB: เสริมคางทรงเกาหลี by Emma Clinic สำหรับใครที่สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการทำศัลยกรรม ทั้งการเสริมจมูกรวมทุกเทคนิค เสริมคาง ปรับรูปหน้า ทำตาสองชั้น เสริมหน้าอก ดูแลผิวพรรณ เสริมความงามแบบครบวงจร ติดตามข่าวสาร เทรนด์ศัลยกรรม สาระน่ารู้ ดูรีวิวสวย ๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.emmaclinicthailand.com