เปลี่ยนหน้าดุให้สวยหวาน ด้วยการเสริมจมูกทรงเกาหลี

เกาหลีเกาใจ แบบไม่ต้องบินไปเสริมจมูกที่เกาหลี! ก็ได้ฟีลความสวยความหวานสไตล์เกาหลีได้เหมือนกันง่าย ๆ ด้วยทรงจมูก Tear Drop เทียร์ใจ ทรงหยดน้ำของ Emma Clinic เปลี่ยนหน้าดุเป็นน่ารักกก.. เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาทรงจมูกแข็งโก่งแบบแม่มด ทำให้หน้าดุต้องดูรีวิวนี้เลยค่าาา โดยน้อง “เจเน็ต” #ลูกสาวหมอพล ของเราจะมารีวิวปัญหาฮัพม์สูง ปลายจมูกตก มาเสริมจมูกเปลี่ยนทรงให้ดูสวยหวานละมุนขึ้นกว่าเดิม

ตามไปดูปัญหาก่อนเสริมจมูกของน้องเจเน็ตกันค่ะ ว่ามีปัญหาอะไร? แล้วไปดูกันว่าคุณหมอพลของเราจะใช้เทคนิคการผ่าตัด ร่วมกับการออกแบบทรงจมูก เพื่อแก้ปัญหาให้อย่างไรบ้างในเคสนี้ !? ถ้าอยากรู้กันแล้ว ก็ตามไปดูรีวิวนี้กันได้เล๊ยยย 

ก่อนเสริมจมูก “จมูกแม่มดทำให้หน้าดูดุ”

สวัสดีค่ะ เราชื่อว่า “เจเน็ต” นะคะ เมื่อก่อนเราเป็นคนหน้าดุมากก โดยไม่ได้ตั้งใจค่ะ แต่เราไม่ใช่คนดุ คนเหวี่ยงหรือตัวตึงอะไรเลยนะ แค่หน้ามันดุเองจากทรงจมูกเดิม ที่โด่งอยู่แล้ว แต่เป็นความโด่งที่แบบไม่ได้ดั่งใจเลยค่ะ มองด้านข้างเหมือนมีสันจมูก แต่ปัญหาก็คือ..

• สันดั้งช่วงหัวตาลึก

• ฮัมพ์สูง

• ปลายจมูกตก

ทรงจมูกเป็นแบบแม่มดเลยค่ะ แม้จะมีสันโด่งแล้วก็ตาม แต่เป็นความโด่งที่แบบหน้าดูแข็ง ดูดุ ไม่ค่อยหวานซักเท่าไหร่ ซึ่งที่จริงเราเองก็เป็นสาวหวานนะ แต่ทำยังไงหน้าก็ไม่หวานซักที ด้วยปัญหาทรงจมูกที่เป็นอยู่ตอนนี้ ก็เลยทำให้เราอยากที่จะไปเสริมจมูกค่ะ

ด้วยความที่หน้าเดิมของเรา ก็มีความฝอของทรงจมูกอยู่แล้วค่ะ แต่ดูไม่ค่อยรับกับใบหน้าซักเท่าไหร่ พอจะเสริมจมูกแก้ไขเรื่องทรงจมูกนั่นนี่ ก็เลยอยากจะลองเปลี่ยนจมูกเป็นทรงแบบเกาหลี ๆ ดูค่ะ เค้าว่าจะทำให้หน้าดูหวานละมุนขึ้นและได้ทรงที่ดูเป็นธรรมชาติ ทำให้เราตัดสินใจเลือกเสริมจมูกที่เอมม่าคลินิกค่ะ เพราะที่นี่เค้าเน้นการออกแบบให้เข้ากับใบหน้าของแต่ละคน จะสายฝอ สายเกาได้หมด รวมถึงที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องทรงหยดน้ำ Tear Drop ด้วยค่ะ เพราะเราไม่ค่อยชอบปลายที่พุ่งแหลมเท่าไหร่ค่ะ ชอบแบบทรงที่ดูละมุน ๆ มากกว่า

สำหรับเพื่อน ๆ พี่ ๆ คนไหนที่สนใจเสริมจมูก ก็สามารถทักเข้าไปปรึกษา จองคิวกับคุณหมอที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ พี่แอดมินที่นี่น่ารัก ให้คำแนะนำดีมาก ๆ

เราเลือกเสริมจมูกกับคุณหมอพลนะคะ ด้วยความที่ไล่ดูรีวิว #ลูกสาวหมอพล ในเฟสบุ๊คมาแล้ว ชอบทรงจมูกของลูกสาวหมอพลมาก ๆ ค่ะ เพราะแต่ละนางหน้าคือหวานกันมาก ๆ เราก็เลยขอฝากตัวเป็นลูกสาวหมอพลด้วยเลยยย ว่าแล้วก็ไปปรึกษาคุณหมอพลกันเลยสิคะ

ปรึกษาเสริมจมูกกับคุณหมอพล

ปรึกษาวิเคราะห์ปัญหาจมูกของตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อย่างที่บอกไปค่ะ จมูกเรามีปัญหาหัวตาลึก มีฮัมพ์สูง ปลายตกไม่ค่อยพุ่ง หลังจากวิเคราะห์ปัญหาแล้ว ทีนี้ก็จะมาประเมินเนื้อกันต่อนะคะ ว่าจมูกของเรามีเนื้อจมูกยืดหยุ่นมากน้อยแค่ไหน สามารถเสริมจมูกได้แค่ไหน !? ที่จริงแล้วเราเองก็พอใจความโด่งของจมูกเดิมอยู่นะคะ แค่มีปัญหาเรื่องทรงที่ไม่สวยค่ะ แต่พอคุณหมอประเมินจับเนื้อให้แล้ว ออกมาจะได้ทรงประมาณนี้ค่าาา พุ่งได้เยอะอยู่

ที่เอมม่าคลินิกเขาจะเน้นการเสริมจมูกแบบแค่สุดเนื้อนะคะ แต่จะไม่แนะนำให้เสริมจมูกแบบฝืนเนื้อจนเกินไป… เพราะทำได้ไม่นานก็จะมีโอกาสปลายบาง หรือทะลุได้ ที่นี่ก็เลยเน้นการเสริมจมูกที่ลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุดค่ะ ส่วนจะได้โด่งหรือไม่โด่ง คุณหมอบอกว่า ขึ้นอยู่กับเนื้อจมูกของแต่ละคนด้วยนะคะ

ฉีดยาชาก่อนเสริมจมูก

ทีนี้ก็เข้าสู่ขั้นตอนก่อนผ่าตัดกันเล๊ยยย คุณหมอจะเริ่มมาร์กจุดฉีดยาชาค่ะ และจุดสำหรับดีไซน์ทรงจมูกว่าจะต้องเพิ่มส่วนไหนบ้างง เราถามคุณหมอว่าฉีดยาชาเจ็บมั้ย? คุณหมอตอบมาว่า “เจ็บครับ แต่หมอจะพยายามเบามือที่สุดน้า” และก็เบาจริง ๆ ค่ะ ทนเจ็บแค่แป๊บเดียว ที่เหลือก็ชิลล์แล้ววว

ดีไซน์ทรงจมูก

ระหว่างที่รอยาชา คุณหมอก็จะดีไซน์ทรงจมูกและเหลาซิลิโคนค่ะ โดยเคสของเรา คุณหมอจะเน้นเติมสันบริเวณหัวตา ปรับใบหน้าให้ดูมีมิติ ปรับฮัมพ์สูงให้เรียบ ดีดปลายให้พุ่งขึ้นค่ะ และก็เริ่มเหลาซิลิโคนอยู่ซักพัก โดยซิลิโคนนี้ คุณหมอจะเหลาแบบเคสบายเคสนะคะ

เหลาซิลิโคนเสร็จแล้ววว

พอคุณหมอเหลาซิลิโคนเสร็จก็เอามาลองทาบดูค่ะ ทำแล้วออกมาจะได้ทรงประมาณนี้ !! เน้นเติมสันที่หัวตา ดีดปลายให้พุ่งขึ้น เริ่มลุ้นแล้วว่าน้องจะเข้าไปอยู่ข้างในจมูกได้ยังไง ? และจะทำออกมาแล้วเป็นแบบไหน เข้ากับใบหน้ามั้ย อีกไม่กี่อึดใจรู้กันค่ะ

คุณหมอบอกด้วยว่า “หมอมีประสบการณ์มากกว่าหมื่นเคสนะครับ” และจะทำให้สวยที่สุดดด แล้วเดี๋ยวตามไปดูหลังทำทันทีกันเลยค่ะ ว่าจะเสริมจมูกออกมาเป็นยังไง

เสริมจมูกหลังทำทันที!!

หลังจากผ่าตัดเสริมจมูกเสร็จ คุณหมอก็ให้ส่องกระจกเช็คทรงจมูกกันเล๊ยทันที ได้ทรงออกมาประมาณนี้ค่าาา หัวตามีมิติขึ้นทันที ปลายจมูกก็พุ่งสวย ไม่ยุบไม่งุ้มแล้วค่ะ ส่วนฮัมพ์จมูกเดิมที่สูงจรงกลางสันจมูก ตอนนี้ก็เรียบสนิท ที่สังเกตได้เลยก็คือ หน้าหวานมากกก ประทับใจตั้งแต่แรกเห็นเลยค่ะ

เสริมจมูกครั้งแรกในชีวิต เป็นการผ่าตัดที่ชิลล์ ไม่มีเจ็บเลยค่ะ เพราะคุณหมอพลทำละเอียดและก็มือเบามาก ๆ เจ็บแค่ตอนฉีดยาชาแป๊บเดียวอย่างที่บอกค่ะ หลังทำก็รู้สึกแค่ตึง ๆ เท่านั้นเอง จากนั้นก็ลงไปรับยาและกลับบ้านได้ทันทีเลยค่ะ ทุกอย่างเป็นปกติมาก ๆ ไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร และจมูกของเราเองก็แทบจะไม่บวมไม่ช้ำเลยค่าา

อัปเดตความบวมช้ำหลังทำจมูก

หลังทำว่าไม่บวม ไม่ช้ำ พอกลับมาถึงบ้านก็เตรียมใจไว้แล้วค่ะ ว่าน่าจะบวมช้ำหลังทำแน่นอน แต่ผิดคาดจริง ๆ ค่ะ เพราะบวมช้ำน้อยกว่าที่คิดไว้มาก หนักสุดก็แค่ 1 – 3 วันแรกค่ะ พอครบ 3 วัน เราก็แกะเฝือกเสริมจมูกออกมาดู ไม่เห็นรอยช้ำเลย มีแค่แอบบวมแถวหัวตานิดเดียว ทรงจมูกมาดีมากกก แค่ 7 วันแทบจะเป็นปกติแล้วค่าาา

วิธีดูแลตัวเอง พี่ ๆ ที่คลินิกเขาก็บอกแนะนำ พร้อมกับเอกสารแนบมากับถุงยาด้วยนะคะ เริ่มจากกินยาให้สม่ำเสมอ ประคบเย็นบ่อย ๆ นอนหมอนสูง ๆ ให้คอตตอนบัดชุบน้ำเกลือเช็ดแผล งดกระทบกระแทกจมูก งดออกกำลังกาย งดอาหารแสลง ของหมักดอง อาหารทะเล แอลกอฮอล์ ประมาณนี้ค่ะ พอครบ 14 วันก็เข้าไปตัดไหมที่คลินิกเท่านี้เองค่ะ ง่ายมาก ๆ แต่ถ้ามีอะไรสงสัยเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อ Emma Care ดูแลหลังทำได้ค่าาา ที่นี่ให้บริการหลังทำดีมาก

อัปเดตหลังเสริมจมูกครบ 2 เดือน

หลังจากดูแลตัวเองไปเรื่อย ๆ น้องจมูกของเราก็จะค่อย ๆ หายภายใน 1 – 2 เดือนนะคะ อย่างของเรา แค่เดือนเดียวก็กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติแล้วค่ะ แค่ว่าจมูกยังเหมือนบอบบางอยู่ เวลาจับแรง ๆ หรือเวลาโดนอะไรก็จะรู้สึกเจ็บ แต่ทุกคนที่ทำจมูกมาก็บอกเจ็บแบบนี้ทุกคนแหละ 555

ก็เลยขอพามาดูรูปหลังทำครบ 2 เดือนกันเลยนะคะ ตอนนี้เริ่มเข้าที่หน่อย ๆ แล้วค่ะ ที่เซอร์ไพรส์เลยคือมีแต่คนทักค่ะ ว่าจมูกดูเข้ากับใบหน้า เวลาถ่ายรูปอัปเฟส อัปไอจี หันหน้ามุมไหนจมูกก็สวยทุกมุมเลยค่ะ

อัปเดตหลังเสริมจมูกครบ 3 เดือน

ไปอัปกันต่อสับ ๆ ที่ 3 เดือนหลังเสริมจมูกค่ะ ทรงจมูกตอนนี้คือดีย์ ไม่ปลอม ไม่โป๊ะ ดูเป็นธรรมชาติรับกับใบหน้าสุด ๆ ด้วยทรง Tear Drop ทิ้งปลายหยดน้ำ หน้าก็เลยดูหวานละมุน ปลายไม่แหลมพุ่งเกินไป เปลี่ยนจากหน้าดุให้หวานที่สุดเลย

ด้วยความที่เราอยู่กับหน้าดุ ๆ มาแล้วทั้งชีวิตค่ะ จะเสริมจมูกทั้งที เราอยากได้ทรงจมูกที่ดูหวาน ๆ เข้ากับหน้า และก็ถือว่า.. เราได้ทรงจมูกออกมาตามที่อยากได้อยู่พอดีเลยค่ะ โด่งเพิ่มอีกนิดเดียว แก้ปัญหาเรื่องทรงจมูกเป็นหลัก มีสันตั้งแต่หัวตา และคุณหมอก็จัดให้ตามคำขอของเรา ถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ 

เสริมจมูก “ก่อนทำ vs หลังทำ”

เทียบให้ดูชัด ๆ ส่งท้ายรีวิวนี้กันค่าาา ว่าความแตกต่างก่อนทำ และหลังทำเป็นยังไง !? จากที่เราเคย สันลึกบริเวณหัวตา มีปุ่มฮัมพ์นูนขึ้นมากลางสันจมูก ปลายจมูกตก ไม่โด่งพุ่ง ใบหน้าดูขาดมิติ ทรงจมูกเดิมเป็นทรงแม่มด ทำให้ใบหน้าดูดุ ๆ

หลังจากตัดสินใจไปเสริมจมูกที่เอมม่าคลินิก คุณหมอพลใช้เทคนิคดีไซน์ทรงจมูกด้วยการ เติมสันที่หัวตาไม่ให้ดูลึก ตะไบฮัมพ์ปรับฐานสันจมูกให้เรียบเสมอกัน สันสโลปไล่ลงมาถึงปลายจมูก ดีดปลายให้พุ่งขึ้นแก้ปัญหาปลายจมูกตก และตั้งแต่นั้นมา หน้าของเราก็เปลี่ยนไปจากเดิมเลยค่ะ จากคนหน้าดุ กลายเป็นคนหน้าหวาน ละมุน ๆ เข้ากับลุค เข้ากับสไตล์ของตัวเอง และทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น เหมือนได้ค้นพบความเป็นตัวเอง ได้เจอเวอร์ชั่นที่ดีที่ของเราค่ะ แล้วเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่อ่านรีวิวนี้อยู่ล่ะคะ ถ้าอยากสวยขึ้นในแบบที่เป็นตัวเอง สำหรับคนอยากมั่นใจ เราก็ขอแนะนำ.. Emma Clinic เท่านั้นนะคะ

สาว ๆ ที่สนใจการเสริมจมูก สามารถเข้าไปปรึกษาแอดมินได้เลย ที่ FB: Emma Clinic แอดมินพร้อมยินดีให้คำแนะนำค่ะ หรือใครที่สนใจการทำศัลยกรรม เสริมจมูกรวมทุกเทคนิค แก้จมูก เสริมคาง ปรับรูปหน้า ทำตาสองชั้น ดูแลผิวพรรณ เสริมความงามแบบครบวงจร ติดตามข้อมูลดี ๆ ข่าวสาร อัปเดตเทรน์ศัลยกรรมก่อนใคร ดูรีวิวสวย ๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.emmaclinicthailand.com  และครั้งหน้าจะเป็น Story ของใคร อย่าลืมติดตามปักหมุดเว็บไซต์ Emma Clinic ไว้ได้เลยยยย